Covering Disruptive Technology Powering Business in The Digital Age

image
บริษัท กสท โทรคมนาคม (CAT Telecom Thailand) : บุกเบิกตลาด Private Line ระดับพรีเมียมผ่าน Next-Gen OTN
image
ธันวาคม 14, 2020 บล็อก

 

เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่รวดเร็วในปีนี้ เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ ต้องปรับตัวให้เข้ากับวิกฤตการระบาดโควิด – 19 อย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ ซึ่งบางทีการขยายตัวของการเติบโตทางดิจิทัลนี้อาจเร็วเกินไปสำหรับบางองค์กรที่จะตามได้ทัน หากองค์กรนั้นไม่มีกลยุทธ์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม

ในโลกของการสื่อสารโทรคมนาคม ทำให้ความท้าทายในการเชื่อมต่อได้เกิดขึ้น ตามที่พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท กสท โทรคมนาคม ได้ให้ความเห็นว่าเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ดูได้จากการที่เราเปลี่ยนจากสายเคเบิลใยแก้วนำแสงสายคู่บิดเกลียวไปสู่รุ่นที่ 5 ของยุคเครือข่ายมือถือ

ในขณะที่เขาพูดคุยกับผู้ชมแบบเสมือนจริงในงาน Better World Summit 2020 ของบริษัท Huawei โดยพันเอกสรรพชัยได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มธุรกิจทั่วโลกจะก้าวไปข้างหน้าได้เร็วขึ้นและด้วยเหตุนี้เองความต้องการเทคโนโลยีใหม่ ๆ จึงเกิดขึ้นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่โทรคมนาคม จากนั้นท่านได้แบ่งปัน 5 แนวความคิดหลักทางด้านโทรคมนาคมที่ผลักดันให้เกิดความต้องการสำหรับโซลูชันยุคใหม่

ประการแรกเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์ของธุรกิจในปัจจุบันเมื่อโลกมีการเชื่อมต่อกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสำหรับพันเอกสรรพาชัยแล้ว การทำความเข้าใจกับลูกค้าในสถานการณ์เช่นนี้จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากและการเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่าเดิมจะทำให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างมาก

ประการที่สองคือการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจแบบดิจิทัลซึ่งกำหนดให้องค์กรต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเพื่อให้มีการบริการที่ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนประการที่สามเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติสำหรับธุรกิจ ตามคำกล่าวของพันเอกสรรพาชัยที่ว่า ทุกองค์กรจะให้ความสำคัญกับระบบอัตโนมัติสำหรับธุรกิจและความสามารถในการส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ใช้ machine-learning และเทคโนโลยีอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประการที่สองคือการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจแบบดิจิทัลซึ่งกำหนดให้องค์กรต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเพื่อให้มีการบริการที่ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนประการที่สามเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติสำหรับธุรกิจ ตามคำกล่าวของพันเอกสรรพาชัยที่ว่า ทุกองค์กรจะให้ความสำคัญกับระบบอัตโนมัติสำหรับธุรกิจและความสามารถในการส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ใช้ machine-learning และเทคโนโลยีอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประการที่สี่คือ ในส่วนของการทำงานที่มีความยืดหยุ่นทางธุรกิจจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจในการให้บริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้า สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างกว้างขวางในช่วงการระบาดโควิด-19 และบทเรียนที่ได้รับจากวิกฤตโลกครั้งนี้ เราหวังว่าจะทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ได้ใช้มาตรการเพื่อให้แน่ใจว่ามีความยืดหยุ่นและความอดทนต่อความท้าทายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

สุดท้าย พันเอกสรรพชัย ได้กล่าวเสริมเกี่ยวกับการที่ทุกธุรกิจต่างคาดหวังที่จะเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนว่า “ เราต้องเข้าใจลูกค้าโดยการนำเสนอสิ่งที่พวกเขาต้องการนั่นคือความรวดเร็ว, กระบวนการและการบริการที่น่าเชื่อถือ”

จากกรณีของ กสท โทรคมนาคมประเทศไทยซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่ได้รับลงทุนอย่างมากในด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ทันกับการรับมือของแนวคิดเหล่านี้ ซึ่งความคิดริเริ่มเหล่านี้ได้ทำให้ประเทศไทยสามารถไต่อันดับในด้านความเร็วแบนด์วิดท์อินเทอร์เน็ตจากอันดับที่ 32 เป็นอันดับที่ 20 และสำหรับการลงทุนด้านโทรคมนาคมจากอันดับ 19 เป็นอันดับ 14 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วตามการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของ IMD World Digital Competitiveness Ranking 2020

พันเอกสรรพชัยได้กล่าวอีกว่า “ เรานำเสนอบริการโทรคมนาคมและโซลูชั่นที่หลากหลาย โดยเราเป็นเจ้าของระบบเครือข่ายเคเบิลใต้น้ำเกือบทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งเราได้ลงทุนเป็นจำนวนมากในการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป้าหมายของเราคือ การเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียน”

ในระหว่างการประชุมนั้น พันเอกสรรพชัยได้ประกาศว่า CAT ได้ร่วมมือกับ Huawei ในการติดตั้งเครือข่ายการขนส่งออพติคอลรุ่นใหม่หรือที่เรียกว่า Next-gen OTN ซึ่งเป็น private line ระดับพรีเมียมแรกในประเทศไทย ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถตรวจสอบการจราจรแบบเรียลไทม์และเปลี่ยนเส้นทางโดยอัตโนมัติจากการเชื่อมต่อที่เร็วที่สุด

การออกแบบเครือข่ายของ CAT ต้องการ Hub เพียงศูนย์เดียวระหว่างศูนย์ข้อมูลแต่ละแห่ง ซึ่งหมายความว่า CAT สามารถรับประกัน latency ต่ำสุดด้วยแบนด์วิดท์ที่สูงสุดที่ลูกค้าต้องการถึง 99.9%

“ในฐานะที่เป็นองค์กรโทรคมนาคมของรัฐ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ใช้บริการ private line ระดับพรีเมียมเพื่อสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น ศูนย์ข้อมูลภาครัฐและบริการคลาวด์, ภูเก็ตสมาร์ทซิตี้, ระบบการบริการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจและอื่น ๆ ด้วยประสิทธิภาพที่สูง, รับประกันแบนด์วิธ, ความเร็วและ latency โดยเราจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้” พันเอกสรรพชัยกล่าว

CAT Premium Private Line ยังครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศสำหรับกรุงเทพฯและอีก 76 จังหวัดมีความพร้อมใช้งานที่สูงขึ้นด้วยเครือข่ายแบบ Automatically Switched Optical Network (ASON) latency ต่ำเป็นพิเศษผ่านการเชื่อมต่อโดยตรงแบบ one-hop และตัวควบคุมเพื่อเปิดใช้งานการคาดการณ์และการบำรุงรักษา

“ ทำไม Premium Private Line ถึงช่วยส่งเสริมธุรกิจของคุณได้? เนื่องจากเรารับประกันการชัดเจนของสัญญาณในพื้นที่และครอบคลุมทั่วประเทศ โดยการเชื่อมต่อกับโครงข่ายประเทศเพื่อนบ้านด้วยสายเคเบิลใต้น้ำทั่วโลก ซึ่งเรารับประกันข้อตกลงสำหรับระดับการบริการที่ 99.9% ด้วยความเร็ว, แบนด์วิดท์และ latency [ที่น่าพอใจ] ” พันเอกสรรพชัยอธิบาย

สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น iMaster NCE ของ Huawei ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติเครือข่ายและแพลตฟอร์มอัจฉริยะตัวแรกของอุตสาหกรรมที่รวมฟังก์ชันการจัดการ, การควบคุมการวิเคราะห์และการทำงานอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพบนเครือข่ายทางกายภาพและให้บริการการจัดการแบบรวมศูนย์, การควบคุมและการวิเคราะห์เครือข่ายทั่วโลก

ด้วยเหตุนี้องค์กรที่ใช้ประโยชน์จากเครือข่าย private line ระดับพรีเมี่ยมจะได้รับผลประโยชน์มากมาย เช่น การรับประกัน latency ต่ำพิเศษ, ครอบคลุมได้ทั่วถึง, ความปลอดภัยสูงและความพร้อมในการใช้งานตลอดจนความอัจฉริยะและความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งพันเอกสรรชัยได้กล่าวทิ้งท้ายว่า“ เราได้เชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลกับ Huawei ที่เป็นพันธมิตรระดับโลกของเรา ทำให้เราสามารถเป็นจุดติดต่อเดียวที่เชื่อมคุณกับโลกใบนี้ได้”

(0)(0)