Covering Disruptive Technology Powering Business in The Digital Age

ความก้าวหน้าของการนำมาใช้ 5G ได้เพิ่มขึ้นในปี 2020 และระบบนิเวศกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วโดยมีเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ 140 เครือข่ายที่ติดตั้งใน 59 ประเทศ มีการเปิดตัวไซต์ 5G มากกว่า 800,000 ไซต์ทั่วโลกและราคาของโทรศัพท์มือถือที่รองรับได้ลดลงเหลือเพียง 350 ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลจากการคาดการณ์ของ GSMA Intelligence ในสี่หรือห้าปีนี้ 5G จะมีสัดส่วนมากถึงครึ่งหนึ่งของการเชื่อมต่อมือถือทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าเครือข่าย LTE จะยังคงรองรับการรับส่งข้อมูลส่วนใหญ่ในหลายประเทศเป็นเวลาอย่างน้อยอีกทศวรรษ เนื่องจากยังคงเป็นเสาหลักสำหรับการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้

สำหรับประเทศที่ยังไม่เปิดตัว 5G การครอบคลุมของ LTE จะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นเนื่องจากเป็นรากฐานสำหรับการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ผ่านมือถือ

สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นสำคัญบางประการจากวิทยากรในงาน Wireless Foundation Summit ที่จัดขึ้นที่ MWC Shanghai 2021 ซึ่งพูดคุยถึงวิธีการสร้างเครือข่ายรากฐานไร้สายในอนาคตซึ่งจะต้องมีประสิทธิภาพ, เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพเพื่อสนับสนุนธุรกิจที่ทำกำไรให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ

5G Corner Stone

Mohamed Madkour รองประธานฝ่ายการตลาดและโซลูชันเครือข่ายไร้สายทั่วโลกของ Huawei กล่าวว่าในขณะที่อุตสาหกรรมนี้อยู่ในยุค 5G อย่างมั่นคง เนื่องจากตัวเลขจากจีนแสดงให้เห็นขึ้นอยู่กับว่าคุณมีคลื่นความถี่ใดโครงสร้างพื้นฐานของคุณก้าวหน้าเพียงใดและการพัฒนาตลาดของคุณเป็นอย่างไร ซึ่งจะต้องมีเส้นทางกลยุทธ์ที่แตกต่างกันในการเข้าถึงเครือข่ายเป้าหมาย

โดยทุกประเทศและผู้ให้บริการทุกรายควรจับตามอง 5G ในขณะนี้ แต่ในขณะที่เกิดขึ้น เขากล่าวว่าข้อมูลส่วนใหญ่จะยังคงถูกส่งโดย 4G ซึ่งควรถือเป็นเทคโนโลยีสากลสำหรับทุกคน

เขาอธิบายว่าตัวขับเคลื่อนสำคัญของ LTE คือระบบนิเวศโดยรวม โดยราคาโทรศัพท์มือถือลดลงเหลือเพียง 15 เหรียญสหรัฐและประสิทธิภาพสูงของเทคโนโลยีเองที่จะทำให้เป็นเทคโนโลยีหลักสำหรับบรอดแบนด์มือถือในอีกหลายปีข้างหน้า

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเชื่อมต่อ 4G ยังคงขยายตัวอยู่ ด้วยเทคโนโลยี LTE ที่แน่นอนว่าจะมีมานานแล้ว 4G จะยังคงดำเนินต่อไปอย่างหนักเนื่องจากการใช้ข้อมูลเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เขากล่าว

“ทุกการลงทุนใน 4G คือการลงทุนใน 5G เช่นกัน และสิ่งที่สำคัญคือโดยรวมแล้วเรารวม 4G และ 5G เข้าด้วยกันอย่างไรเพื่อให้เราได้รับประโยชน์จากประสบการณ์นี้”

Madkour ตั้งข้อสังเกตว่าการทำงานร่วมกันของ LTE และ New Radio (NR) รวมถึง Smart Anchor ซึ่งสามารถเลือกจุดยึนได้อย่างชาญฉลาดเพื่อเพิ่มอัตราการเปิดใช้งาน 5G ได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้การเชื่อมต่อแบบคู่ E-UTRA-NR (EN-DC) ยังสามารถปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ 5G ได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ในพื้นที่ cell edge ของ 5G ในขณะที่การแชร์สเปกตรัมแบบไดนามิก (DSS) สามารถแชร์สเปกตรัมระหว่าง LTE และ NR เพื่อตอบสนอง 5G ที่รวดเร็วและความต้องการของปริมาณการใช้งาน LTE

วิวัฒนาการของความจุพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

Farooq Raza Khan หัวหน้าแผนกวางแผนเครือข่ายของ CMPak (Zong) กล่าวว่าผู้ให้บริการท้องถิ่นต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายของคลื่นความถี่ที่สูงมาก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายของคลื่นความถี่ประมาณ 10% ของรายได้ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาบรอดแบนด์มือถือในปากีสถานชะลอตัว

แม้จะมีอุปสรรคมากมายในช่วงสองปีที่ผ่านมา การเข้าถึง 4G ยังเพิ่มขึ้นสามเท่าจากร้อยละ 23 เป็นร้อยละ 65 ซึ่งเขาตั้งข้อสังเกตว่ามีความต้องการใช้ข้อมูลในประเทศสูงในช่วงเวลาเดียวกัน การเข้าชมเพิ่มขึ้นเกือบ 200 เปอร์เซ็นต์ด้วยจำนวนไซต์ที่มีการใช้งานสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต้องการการขยายความจุพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในทันทีเพื่อรักษาประสบการณ์ของผู้ใช้

ความท้าทายที่เพิ่มขึ้นคือ ความยากในการอัปเกรดอุปกรณ์บนเว็บไซต์ที่ใช้ร่วมกันเนื่องจากข้อ จำกัดพี้นที่ tower

เพื่อตอบสนองการเติบโตของปริมาณการใช้งาน LTE ที่รวดเร็วและข้อกำหนดเฉพาะซึ่งเป็นผลมาจากเว็บไซต์มากกว่าหนึ่งในสามที่สร้างขึ้นบน tower ที่ใช้ร่วมกัน ผู้ให้บริการจึงเลือกใช้โซลูชัน FDD Smart 8T8R ของ Huawei ซึ่งรวมถึง 8T8R RRU แบบดูอัลแบนด์ 1800MHz และ 2100MHz และเสาอากาศที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์  ซึ่งเป็นการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและขยายความจุของเซลล์ LTE โดยใช้ระบบลำแสงคู่ทำให้สามารถสร้างลำแสงแบบไดนามิกเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนมากขึ้นหลังจากอัปเกรดเป็น NR

ในปี 2018 TIM Brasil ต้องเผชิญกับปัญหาช่องว่างของคลื่นความถี่เมื่อเทียบกับคู่แข่งหลักสองรายซึ่งจำกัดความเร็วข้อมูลที่สามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้

Leonardo Capdeville, CTIO ของ TIM Brasil อธิบายว่าการเพิ่มสถานีฐานให้มากขึ้น ไม่ใช่ทางเลือกเนื่องจากการจัดหาไซต์ใหม่มีราคาแพงและประเทศมีข้อกำหนดที่เข้มงวดในการ จำกัดจำนวนในเมือง

หลังจากการปรับใช้โซลูชัน Massive MIMO ครั้งใหญ่ ผู้ปฏิบัติงานสามารถปรับปรุงขีดความสามารถในไซต์ได้สามถึงห้าเท่า

TIM ได้ใช้งาน Massive MIMO ใน 200 เมือง ซึ่ง Capdeville เชื่อว่าการปรับใช้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับอนาคตเนื่องจากเมื่อเปิดตัว 5G,  คลื่นความถี่ 5G สามารถรวมเข้ากับคลื่นความถี่ที่ต่ำกว่าได้ซึ่งจะทำให้ TIM มีเครือข่ายมือถือที่ดีที่สุดในบราซิล

ปรับปรุงความครอบคลุม

China Telecom วางแผนที่จะขยายบริการ 5G โดยใช้ย่านความถี่ 2.1GHz ที่รีฟาร์มจาก LTE เพื่อปรับปรุงพื้นที่ชานเมืองและชนบทและคลื่นความถี่ mmWave สำหรับการใช้งานในเมือง

หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญของ China Telecom Qi Bi กล่าวว่าการใช้คลื่นความถี่ต่ำจะช่วยให้ครอบคลุมทุกแอปพลิเคชันรวมถึงเสียงและ IoT ในขณะที่คลื่นความถี่สูงสามารถใช้เทคโนโลยี Massive MIMO เพื่อความจุที่มากขึ้นได้

เครือข่าย LTE ของผู้ให้บริการบนย่านความถี่ 800MHz มีมากกว่า 400,000 ไซต์ซึ่ง Qi กล่าวว่าช่วยอำนวยความสะดวกอย่างมากในการส่งมอบบริการ NB-IoT และ VoLTE ทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทได้อัปเกรดเครือข่าย NB-IoT เป็น R14 ในปี 2020 เพื่อปรับปรุงความจุและปริมาณงาน

เครือข่าย LTE ของผู้ให้บริการบนย่านความถี่ 800MHz มีมากกว่า 400,000 ไซต์ซึ่ง Qi กล่าวว่าช่วยอำนวยความสะดวกอย่างมากในการส่งมอบบริการ NB-IoT และ VoLTE ทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทได้อัปเกรดเครือข่าย NB-IoT เป็น R14 ในปี 2020 เพื่อปรับปรุงความจุและปริมาณงาน

ผู้ให้บริการยังสนับสนุนให้ผู้จำหน่ายจัดหาซอฟต์แวร์เริ่มต้น VoLTE บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งส่งผลให้อัพเกรดโทรศัพท์มือถือได้มากกว่า 200 รุ่นภายในหกเดือน เพื่อผลักดันการโยกย้าย 2G และ 3G ไปยัง VoLTE ต่อไป โดยบริษัทได้ช่วยเปิดตัวฟีเจอร์โฟน VoLTE ราคาถูก ซึ่งด้วยความพยายามเหล่านี้ทำให้มีผู้ใช้ VoLTE ถึง 200 ล้านคนในสองปี

ในขณะเดียวกัน AIS ในประเทศไทยได้ขยายเครือข่าย LTE โดยใช้ย่านความถี่ 900MHz จาก 5MHz เป็น 10MHz โดยมุ่งหวังที่จะปรับปรุงประสบการณ์ด้านเสียง

วสิษฐ์  วัฒนทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและสนับสนุนทั่วประเทศของเอไอเอสกล่าวว่า “VoLTE เป็นรากฐานของบริการเสียง 5G ซึ่งเป็นเหตุผลที่ VoLTE มีความสำคัญต่อเรามาก”

เขาสังเกตเห็นประโยชน์หลักของ VoLTE คือ ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือได้ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์และยังเร่งเวลาในการตั้งค่าการโทร “ บริการอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มได้ในระยะต่อมา ได้แก่ RCS หรือบริการมัลติมีเดียอื่น ๆ ” Wasit กล่าว

การครอบคลุมย่านความถี่ต่ำมีความสำคัญต่อการย้ายบริการเดิมไปยัง LTE อย่างไรก็ตามแถบความถี่ต่ำนั้นแคบและเนื่องจากผู้ใช้จำนวนมากต้องการความครอบคลุมที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับย่านความถี่กลาง ซึ่งความแออัดอาจเกิดขึ้นได้ ส่งผลให้ผู้ใช้ใช้งานได้ไม่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ cell edge ในการนำเสนอของ Madkour เขาแนะนำให้ใช้โซลูชัน 4T4R + SingleCell ย่านความถี่ต่ำเพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานย่านความถี่ต่ำ

“SingleCell กำหนดเวลาการรับส่งข้อมูลของผู้ใช้ที่อยู่ตรงกลางของเซลล์ไปยังย่านความถี่กลางและช่วยให้ย่านความถี่ต่ำมุ่งเน้นไปที่การให้บริการผู้ใช้ cell edge ด้วยการทำเช่นนี้ ย่านความถี่ทั้งหมดจะถูกกำหนดให้เป็นเซลล์เดียวและความพิเศษของย่านความถี่กลางและแถบความถี่ต่ำสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่” Madkour ผู้ตั้งข้อสังเกตว่า 4T4R + SingleCell แบบย่านความถี่ต่ำสามารถเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้โดยเฉลี่ยได้ 50 เปอร์เซ็นต์ถึง 80 เปอร์เซ็นต์

การย้ายไปที่ LTE

Sebastien Codeville ซีอีโอของ KaiOS Technologies เน้นย้ำว่า ผู้คนราว 2 พันล้านคนยังคงใช้ฟีเจอร์โฟน 2G โดยแนะนำว่า “ต้องใช้โทรศัพท์ที่รองรับอินเทอร์เน็ตในราคาประหยัดเพื่อย้ายผู้ใช้ 2G เหล่านี้ไปยัง 4G”

เขาอธิบายว่า ในขณะที่บางคนไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยตัวเลือกเพราะต้องการใช้อุปกรณ์ที่เรียบง่าย แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เชื่อมต่อเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถซื้ออุปกรณ์ที่รองรับอินเทอร์เน็ตได้

Codeville อ้างถึงข้อมูล GSMA ที่พบว่าการเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนนั้น คุณจะต้องมีรายได้อย่างน้อย 10 เหรียญสหรัฐต่อวัน ซึ่งความสามารถในการที่จะซื้อโทรศัพท์ได้นั้นเป็นปัญหาหลัก

“ฟีเจอร์ของโทรศัพท์รุ่นใหม่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เพื่อให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสำหรับคนพันล้านคนในราคาที่เหมาะสม ในขณะที่อำนวยความสะดวกในการโยกย้ายไปที่ 4G หรือแม้กระทั่ง 5G”

ฟีเจอร์สมาร์ทโฟนทำงานบน KaiOS และรองรับเครือข่าย LTE พร้อมการเข้าถึง KaiStore ซึ่งโฮสต์แอพยอดนิยมและจำเป็นมากกว่า 900 แอพ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์จากคอนเท้นต์ดิจิทัลที่มีคุณค่าและเชื่อมต่อกับเพื่อนและครอบครัว , เขากล่าว

หลังจากทำงานร่วมกับ Reliance Jio ในอินเดียเป็นเวลา 3 ปี ผู้ใช้บริการประมาณ 26 เปอร์เซ็นต์ใช้อุปกรณ์ที่เปิดใช้งาน KaiOS

(0)(0)