เขียนโดย: Daniel CF Ng, รองประธานฝ่ายการตลาด– APAC, Neo4j
ตลอดอาชีพการทำงาน 37 ปีของผมในด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล โดยเริ่มจากวิศวกรระบบหลังจากสำเร็จการศึกษาจนถึงตำแหน่งปัจจุบันในด้านการตลาดระดับภูมิภาคและระดับโลก สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนั่นคือ ข้อมูล!
มันขึ้นอยู่กับความเร็วที่เราประมวลผลด้วย CPU ที่เร็วที่สุดหรือว่าเราสามารถจัดเก็บในเทป, ดิสก์ และอุปกรณ์ออปติคัลได้มากเพียงใด
ในขณะที่ผมเปลี่ยนไปเป็นนักการตลาดมืออาชีพ ข้อมูลก็ไม่เคยห่างไปจากการอภิปรายใดๆ ไม่ว่าจะในบริบทโดยตรงหรือในการใช้งานเสริมอย่างไม่รู้จบ
ดังนั้นเมื่อเราประมวลผลได้เร็วแค่ไหน ก็จะทำให้เราประมวลผลได้มากเท่านั้น ซึ่งไม่นานก็พัฒนาเป็นจำนวนประเภทของข้อมูลที่มี เนื่องจากโลกของโซเชียลมีเดียและอุปกรณ์ Edge มีอยู่มากมายรอบตัวเรา
จึงมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจากการสร้างข้อมูลไปจนถึงการรวบรวมข้อมูล ซึ่งเราได้เห็นในโลกของ RDBMS (ระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์) เช่นเดียวกับ Apache Hadoop จึงทำให้เกิดคำถามจาก CEO ถึง CIO เกี่ยวกับงบประมาณที่เพิ่มขึ้นสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเนื่องจากปริมาณข้อมูลที่รวบรวมเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ คำถามคือ ข้อมูลที่รวบรวมนั้น มีมูลค่าเท่าไร?
รุ่งอรุณของยุคใหม่ได้มาถึงแล้ว!
การทำความเข้าใจข้อมูลจำเป็นต้องมีวิธีการที่สมเหตุสมผลและมีมนุษยธรรม เราจะเชื่อมต่อข้อมูลชิ้นหนึ่งกับข้อมูลอื่นได้อย่างไร และที่สำคัญกว่านั้น เราจะตอบสนองโลกแห่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
การทำแผนที่ข้อมูลกลับไปสู่วิธีที่มนุษย์คิดนั้นเป็นความก้าวหน้าที่สมเหตุสมผลและเป็นธรรมชาติที่สุด และเนื่องจากเราเป็นมนุษย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงความคิด ความเกี่ยวข้องของข้อมูลที่เชื่อมต่อจึงเปลี่ยนไปด้วย และด้วยเหตุนี้จึงส่งผลต่อการตัดสินใจใดๆ ที่เราทำอันเป็นผลมาจากแผนที่การรับรู้นั้น
การจัดระเบียบข้อมูลแบบตารางและแบบคอลัมน์อาจทำงานได้ดีพอสำหรับงานบางอย่าง แต่ในปัจจุบันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด จึงทำให้เราต้องติดตามพฤติกรรมแบบเรียลไทม์ด้วยการทำงานของระบบแนะนำนั้น ซึ่งสามารถทำงานได้ตลอดเวลา
ดังคำกล่าวของสุภาษิตจีนที่ว่า “คลื่นลูกใหม่ไล่คลื่นลูกเก่า…”
การเชื่อมต่อจุดข้อมูลไม่เพียงแต่ให้มุมมองใหม่ทั้งหมดในการที่เราได้เห็นข้อมูลเชิงลึกและการรวบรวมข้อมูลเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราค้นพบสิ่งที่เราไม่ทราบว่าซ่อนอยู่ลึกในการเชื่อมต่อระหว่างจุดข้อมูลเหล่านั้น และสิ่งนี้ส่งผลให้เกิดความรู้ขึ้น
ความรู้นี้จะให้แนวทางใหม่ๆ แก่เราในการแก้ปัญหาเก่าและค้นพบกับสิ่งใหม่ ที่จะช่วยให้เราก้าวหน้าในทุกสิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นตั้งแต่การวิจัยและการระบาดวิทยา และเพื่อช่วยแก้ปัญหาทางสังคมและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุปคือ ตอนนี้เราอยู่ในจุดของการค้นพบพรมแดนใหม่ การไม่รู้ว่าเราไม่รู้อะไร จะเป็นการเปิดทางให้เราค้นพบในสิ่งที่เราไม่รู้ ทำให้เราหาวิธีสำรวจสิ่งนั้นและได้รับประโยชน์ในฐานะที่เรามีเผ่าพันธุ์ที่อยู่บนดาวเคราะห์
ตัวของมันเองเป็นข้อมูลที่มีการเชื่อมต่อ
ตัวมันเองเป็นกราฟ!
Archive
- เมษายน 2022(1)
- มีนาคม 2022(39)
- กุมภาพันธ์ 2022(58)
- มกราคม 2022(56)
- ธันวาคม 2021(43)
- พฤศจิกายน 2021(61)
- ตุลาคม 2021(72)
- กันยายน 2021(65)
- สิงหาคม 2021(76)
- กรกฎาคม 2021(75)
- มิถุนายน 2021(83)
- พฤษภาคม 2021(61)
- เมษายน 2021(66)
- มีนาคม 2021(41)
- กุมภาพันธ์ 2021(44)
- มกราคม 2021(21)
- ธันวาคม 2020(13)
- พฤศจิกายน 2020(14)
- กันยายน 2020(1)
- สิงหาคม 2020(1)
- กรกฎาคม 2020(3)