Viettel Group ประกาศเปิดตัวการทดลองการใช้งาน 5G ในเชิงพาณิชย์และได้เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายรายแรกในเวียดนามที่ให้บริการ 5G แก่ลูกค้า หลังจากได้มีการทดสอบทางเทคนิคมาแล้วในระยะหนึ่ง
การทดสอบความเร็วของ 5G ในใจกลางเมืองฮานอย
ลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์มือถือที่รองรับ 5G ในย่านใจกลางเมือง Hoan Kiem, Ba Dinh และ Hai Ba Trung สามารถเพลิดเพลินกับบริการ 5G ได้โดยไม่ต้องอัพเกรดซิมการ์ด โดยทาง Viettel จะให้บริการ 5G แบบไม่จำกัด โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์และทราบข้อดีของเทคโนโลยีมือถือในรุ่นที่ 5 ในด้านความเร็วและการเชื่อมต่อระหว่างช่วงทดลอง
สถานีรับส่งสัญญาณ 5G ของ Viettel ได้ใช้ Non-Standalone Access (NSA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผู้ให้บริการ 5G ชั้นนำของโลกใช้ในปัจจุบัน เช่น SK Telecom, KT (เกาหลีใต้), Verizon (สหรัฐอเมริกา) และ Vodafone (สหราชอาณาจักร) ซึ่งนอกเหนือจากการปรับปรุงความครอบคลุมของสัญญาณแล้ว เทคโนโลยีนี้ยังเพิ่มขีดความสามารถและลดการรบกวน มีการพัฒนาแบนด์วิดท์ที่ช่วยเพิ่มความเร็วของ 5G ได้หลายสิบเท่า ในขณะเดียวกันก็ลดความหน่วง (latency) ลงได้ 10 เท่าเมื่อเทียบกับ 4G
เสาอากาศ 5G ของ Viettel ทั้งหมดเป็นประเภท 64T64R ที่ล้ำสมัย (มีตัวรับและตัวส่งสัญญาณอย่างละ 64 เสา) ซึ่งมีรัศมีการครอบคลุมและความจุเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับเสาอากาศ 4T4R (ตัวรับและตัวส่งสัญญาณอย่างละ 4 เสา) ที่ใช้กันทั่วไปในเวียดนาม
การทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าความเร็ว 5G ของ Viettel มีความเร็วถึง 1.2 – 1.5 Gbps ซึ่งเร็วที่สุดในเวียดนาม โดยลูกค้าที่ใช้บริการ 5G ของ Viettel สามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์ HD ความยาว 90 นาทีได้ในเวลาเพียง 30 วินาที (เร็วกว่าบริการ 4G หลายสิบเท่า) , ดูไลฟ์สดฟุตบอลหรือเล่นเกมออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์ ยิ่งไปกว่านั้น 5G ของ Viettel ยังเป็นการเติบโตของแอพพลิเคชั่น AR / VR เช่น การท่องเที่ยวเสมือนจริงและการช็อปปิ้งเสมือนจริง ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของชีวิตในด้านทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก
ในงานเปิดตัวของ Viettel ทาง Viettel ได้มีการเชื่อมต่อกับโรงพยาบาล Viet Duc ผ่านเครือข่าย 5G และระบบ Telehealth ซึ่งการเชื่อมต่อ 5G แบบเรียลไทม์นี้ จะมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการตรวจสุขภาพ, การรักษาและการผ่าตัดทางไกลในเวียดนาม
พลตรี Le Dang Dung ประธานและผู้อำนวยการทั่วไปของ Viettel Group ได้กล่าวว่า เฉกเช่นเดียวกับความนิยมในการใช้โทรศัพท์มือถือในทั่วทุกแห่งของเวียดนาม ดังนั้น Viettel ในฐานะบริษัทด้านโทรคมนาคมและไอทีที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม จึงยังคงเป็นผู้บุกเบิกการสร้างสังคมดิจิทัล โดยโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่ทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ดังนั้น Viettel Group จึงได้มีการพัฒนาระบบนิเวศจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, โซลูชั่นดิจิทัล, การเงินดิจิทัล, คอนเท้นท์ดิจิทัล, โลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการในการสร้างรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์และการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัลในเวียดนาม
พลตรี Le Dang Dung ประธานและผู้อำนวยการทั่วไปของ Viettel Group ได้กล่าวว่า เฉกเช่นเดียวกับความนิยมในการใช้โทรศัพท์มือถือในทั่วทุกแห่งของเวียดนาม ดังนั้น Viettel ในฐานะบริษัทด้านโทรคมนาคมและไอทีที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม จึงยังคงเป็นผู้บุกเบิกการสร้างสังคมดิจิทัล โดยโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่ทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ดังนั้น Viettel Group จึงได้มีการพัฒนาระบบนิเวศจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, โซลูชั่นดิจิทัล, การเงินดิจิทัล, คอนเท้นท์ดิจิทัล, โลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการในการสร้างรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์และการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัลในเวียดนาม
Viettel เป็นผู้บุกเบิกในด้านการวิจัยและผลิตอุปกรณ์ 5G ในเวียดนาม เป็นยักษ์ใหญ่ในด้านโทรคมนาคม ซึ่งได้มีการทดสอบและทยอยให้บริการ 5G ในเชิงพาณิชย์และทำให้เวียดนามกลายเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ของโลกที่สามารถเข้าถึง 5G ได้ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และการบุกเบิกการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
นอกจากที่ฮานอยแล้ว บริษัท Viettel จะขยายเครือข่าย 5G สำหรับการทดสอบ 5G ในเชิงพาณิชย์ที่ดานังและโฮจิมินห์
Archive
- เมษายน 2022(1)
- มีนาคม 2022(39)
- กุมภาพันธ์ 2022(58)
- มกราคม 2022(56)
- ธันวาคม 2021(43)
- พฤศจิกายน 2021(61)
- ตุลาคม 2021(72)
- กันยายน 2021(65)
- สิงหาคม 2021(76)
- กรกฎาคม 2021(75)
- มิถุนายน 2021(83)
- พฤษภาคม 2021(61)
- เมษายน 2021(66)
- มีนาคม 2021(41)
- กุมภาพันธ์ 2021(44)
- มกราคม 2021(21)
- ธันวาคม 2020(13)
- พฤศจิกายน 2020(14)
- กันยายน 2020(1)
- สิงหาคม 2020(1)
- กรกฎาคม 2020(3)