Covering Disruptive Technology Powering Business in The Digital Age

บริษัท ยูนิเวอร์ซัล โรบอท(Universal Robots) ผู้นำระดับโลกด้านหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน หรือที่เรียกว่า “โคบอท” (Collaborative robot: Cobot) เริ่มงาน “Collaborative APAC – Cobot Expo 2021” ซึ่งเป็นงานแสดงออนไลน์ที่เปิดโอกาสให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบการทำงานอัตโนมัติในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยเรื่องการนำระบบการทำงานร่วมกันในรูปแบบอัตโนมัติมาใช้ในการจัดการและรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นแรงงานสูงอายุ การขาดแคลนแรงงาน หรือแรงกระตุ้นต่างๆ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสายอาชีพ ซึ่งโคบอทนั้น ต่างจากหุ่นยนต์อุตสาหกรรมทั่วไปตรงที่เป็นหุ่นยนต์ที่พร้อมรองรับการทำงานร่วมมือกัน และได้รับการออกแบบมาให้สามารถทำงานกับมนุษย์ จึงทำให้ธุรกิจได้รับประโยชน์จากการผสานรวมความสามารถระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์เข้าด้วยกัน งานออนไลน์ครั้งนี้นำเสนอแนวคิดและแนวทางใหม่ๆ เกี่ยวกับระบบการทำงานอัตโนมัติที่เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ที่สมบูรณ์แบบ

นายคิม พอฟแอลเซน ประธานบริษัทยูนิเวอร์ซัล โรบอทและนายเจมส์ แมคคิว ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวเปิดงานพร้อมอภิปรายแบบกลุ่ม ถึงเรื่องแนวโน้มของโคบอทในระดับภูมิภาคและระดับโลก การกล่าวคำปราศรัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของนายคิม นับตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ในปีนี้ โดยเขาจะให้ข้อมูลเจาะลึกในเรื่อง “Refining Automation” (การปรับระบบการทำงานอัตโนมัติให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น)และการสนับสนุนให้เกิดแรงงานดิจิทัลแห่งอนาคตที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ

พร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

“ในขณะที่บริษัทต่างๆ กำลังเดินหน้าก้าวเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เรามองเห็นถึงความท้าทายในห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนแรงงานอันเนื่องมาจากแรงงานสูงอายุและการเลือกเส้นทางสายอาชีพที่แตกต่างไปจากเดิม โดยเริ่มมีผู้คนได้ตั้งคำถามกันแล้วว่างานประเภทใดบ้างที่มนุษย์ควรทำ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่างานจำนวนมากในกระบวนการผลิต การประกอบ และการแปรรูปนั้นล้วนเป็นงานที่น่าเบื่อ สกปรก และเป็นอันตราย โดยระบบการทำงานร่วมกันในรูปแบบอัตโนมัติกำลังสร้างกระแสให้ผู้คนก้าวไปสู่งานที่มีความน่าสนใจยิ่งกว่าเดิม ซึ่งเมื่อมีการนำหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานมาใช้งาน มนุษย์ก็ได้กลายเป็นผู้ควบคุมโคบอตที่เปี่ยมด้วยความเชี่ยวชาญ ซึ่งปัจจุบันพนักงานสามารถมอบหมายงานซ้ำๆ ให้กับ ‘เพื่อนร่วมงาน’ นามว่า “โคบอท” ทำแทนได้ เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้มีเวลาเพิ่มมากขึ้นสำหรับการพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ และค้นหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อจัดการกับความท้าทายทางธุรกิจโดยใช้ความคิดที่สร้างสรรค์และทักษะต่างๆ ในการแก้ปัญหา การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดความพึงพอใจในการทำงานและความก้าวหน้าในสายอาชีพเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัท ยูนิเวอร์ซัล โรบอทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้คนจะสามารถทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ได้ แทนที่จะได้รับการปฏิบัติเหมือนกับหุ่นยนต์” นายคิม พอฟแอลเซน ประธานบริษัท ยูนิเวอร์ซัล โรบอทกล่าว

ในการกล่าวอภิปรายแบบกลุ่ม นายเจมส์ แมคคิว ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัท ยูนิเวอร์ซัล โรบอทได้แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้งานระบบการทำงานร่วมกันในรูปแบบอัตโนมัติที่ประสบความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มของภูมิภาคแห่งนี้

“เมื่อพิจารณาจากมุมมองของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแล้วจะพบว่า ผู้ประกอบการโรงงานต่างๆ กำลังประสบปัญหาอันเนื่องมาจากแรงงานสูงอายุตามที่คิมได้กล่าวไว้ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนวัสดุอย่างกะทันหันจากการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้บรรดาผู้ผลิตต้องพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งโคบอทพร้อมมอบประโยชน์อย่างมากมายในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เช่น ความยืดหยุ่นและการใช้พื้นที่ดำเนินการที่มีขนาดเล็ก เพื่อให้เจ้าของธุรกิจและบรรดาผู้ผลิตสามารถแข่งขันในตลาดได้ สิ่งนี้ได้ช่วยผลักดันให้เกิดการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับระบบการทำงานร่วมกับในรูปแบบอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น หรือแม้กระทั่งได้ช่วยฟื้นฟูธุรกิจที่ก่อนหน้านี้ต้องประสบปัญหาให้กลับมาดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ” แมคคิว กล่าว

โอกาสอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้าสำหรับระบบการทำงานร่วมกันในรูปแบบอัตโนมัติ

ระบบการทำงานอัตโนมัติเป็นมากกว่าแค่การมีหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพในการผลิต ขณะนี้ระบบการทำงานร่วมกันในรูปแบบอัตโนมัติกำลังเสนอโอกาสมากมายให้กับธุรกิจที่พร้อมรับกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงและคลื่นของระบบการทำงานอัตโนมัติที่กำลังถาโถมเข้ามา โดยโคบอทจะเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างผลประโยชน์ทางการเงินไปจนถึงการสร้างงานใหม่

“ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานซึ่งมียอดจำหน่ายโคบอทไปแล้วกว่า 50,000 ตัว เราเชื่อว่าโคบอทจะกลายเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่เป็นมนุษย์ ด้วยจำนวนงานมากกว่า 10 ล้านงานที่มนุษย์กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เราคาดการณ์ว่าโคบอทจะมีอัตราการเติบโตอย่างทวีคูณ ทั้งนี้มีโอกาสมากมายที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างงานที่มีความหมายมากขึ้น และขับเคลื่อนกระแสความนิยมของระบบการทำงานอัตโนมัติให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว” นายคิมอธิบาย

(0)(0)