Covering Disruptive Technology Powering Business in The Digital Age

image
เทรนด์สำหรับ Blockchain ในปี 2021: เส้นทางสู่การฟื้นตัวกับความน่าเชื่อถือ
image
มกราคม 7, 2021 บล็อก

 

เขียนโดย: Guofei JIANG ประธานกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอัจฉริยะ Ant Group

การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ได้เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต, การทำงานและการมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างสิ้นเชิง ทั่วโลกมีกิจกรรมในแต่ละวันเกิดขึ้นทางออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะช่วยเร่งให้มีการใช้ดิจิทัลในทุก ๆ ภาคส่วน ในบริบทนี้การส่งเสริมและรักษาความไว้วางใจระหว่างหลายฝ่ายจะมีคุณค่ามากขึ้น

Blockchain มีการกระจายการทำธุรกรรมเพื่อป้องกันการงัดแงะนำบัญชีสาธารณะมาสู่สาธารณชน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างความไว้วางใจในสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น แนวโน้มนี้เห็นได้จากการลงทุนทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในโซลูชันบล็อกเชนซึ่งคาดว่าจะเติบโตเป็น 15.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 ซึ่งมากกว่าการลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐถึง 10 เท่าในปี 2018 โดยธุรกิจต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างก็มองในทิศทางที่ดีเช่นกัน ซึ่งบริษัทร้อยละ 45 เชื่อว่าการเติบโตของเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเร่งตัวขึ้นพร้อมกับแอพพลิเคชั่นและโอกาสที่มากขึ้นในอีกสามถึงห้าปี

 

ความน่าเชื่อถือยังคงเป็นเหตุผลสำคัญสำหรับการนำบล็อกเชนมาใช้

รายงานพิเศษดัชนีชี้วัดความน่าเชื่อถือของ Edelman เปิดเผยว่าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดนั้นผู้บริโภคร้อยละ 60 เลือกใช้แบรนด์ที่พวกเขาเชื่อถือ โดยเปอร์เซ็นต์นั้นจะสูงขึ้นไปอีกสำหรับประเทศต่าง ๆ เช่น จีน (89 เปอร์เซ็นต์) และอินเดีย (77 เปอร์เซ็นต์) โดยในปี 2021 นั้น blockchain จะมีบทบาทที่โดดเด่นมากขึ้นในการเพิ่มความไว้วางใจในภาคส่วนที่สำคัญต่าง ๆ

เราคาดว่าจะได้เห็นการใช้งาน blockchain เพิ่มขึ้นเพื่อเสริมสร้างสินค้าและบริการสาธารณะในด้านต่าง ๆ เช่น การศึกษา, การคุ้มครองลิขสิทธิ์, การดูแลสุขภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้เรายังคาดหวังว่า blockchain จะรวมเข้ากับอุตสาหกรรมบริการทางการเงินมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการจัดหาเงินทุน, การควบคุมและการจัดการความเสี่ยง รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่สะดวกมีประสิทธิภาพมั่นคงและโปร่งใสสำหรับผู้ให้กู้

 

Blockchain มีบทบาทในการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการพาณิชย์มากขึ้น

แอพพลิเคชั่น Blockchain จะเติบโตอย่างไม่ต้องสงสัยในการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเทคโนโลยีนี้กำลังมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงการติดตามการขนส่ง, การนำเข้าดิจิทัลและธุรกรรมการส่งออกแบบไม่ต้องสัมผัส โดยบทบาทของบริษัทจะขยายออกไปอีกด้วยการลงนามความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ใน 15 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ซี่งในฐานะที่เป็นข้อตกลงทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ข้อตกลงดังกล่าวจะสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภูมิภาคในการรวมระบบและการซื้อขายข้ามพรมแดนที่มีความโปร่งใสของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ

เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างประเทศดังกล่าว จึงมีการสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากบล็อกเชน ตัวอย่างเช่น Trusple ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการค้าและบริการทางการเงินระหว่างประเทศที่ขับเคลื่อนด้วย blockchain ที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งการบริการนี้อำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างประเทศโดยการสร้างสัญญาอัจฉริยะเมื่อผู้ซื้อและผู้ขายอัพโหลดคำสั่งซื้อขายบนแพลตฟอร์ม กระบวนการอัตโนมัตินี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดขั้นตอนที่ละเอียดและใช้เวลานาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วธนาคารจะดำเนินการเพื่อติดตามและตรวจสอบคำสั่งซื้อขายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลได้มีการป้องกันการปลอมแปลง

ปัจจัยทั้งสองก่อนหน้านี้ทำให้ธนาคารไม่สามารถจัดหาเงินทุนที่เหมาะสมให้กับผู้ค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเทคโนโลยีไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มระดับความไว้วางใจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการค้าอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังช่วยให้ผู้ค้าได้รับเงินทุนที่จำเป็นจากผู้ให้กู้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง

 

ความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศของ blockchain

ความก้าวหน้าล่าสุดในเทคโนโลยีบล็อกเชน เช่น cross-chain, backend-as-a-service (BaaS) และการคำนวณข้อมูลที่รักษาความเป็นส่วนตัวจะช่วยอำนวยความสะดวกในการไหลเวียนของข้อมูลที่ปลอดภัยระหว่างระบบและแอพพลิเคชันต่างๆ ซึ่งความก้าวหน้าเหล่านี้จะช่วยให้เกิดความร่วมมือในวงกว้างขึ้นในอุตสาหกรรมและภูมิภาคต่าง ๆ โดยเสริมสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันในขณะที่ลดต้นทุนสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เราได้เห็นรัฐบาลและธุรกิจต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปิดกว้างมากขึ้นสำหรับการนำบล็อกเชนมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศสิงคโปร์ได้สร้างระบบนิเวศของตนเพื่อดึงนักประดิษฐ์และการลงทุนจากผู้ที่ตั้งใจจะยกระดับเศรษฐกิจโลกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งระบบนิเวศบล็อกเชนที่มีคุณภาพนั้นสร้างขึ้นจากความร่วมมือที่ไม่เพียงแต่อนุญาตให้มีการพัฒนาโซลูชันร่วมกันระหว่างพันธมิตรด้านเทคโนโลยีและหน่วยงานที่กำกับดูแลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการคิดค้นรูปแบบธุรกิจใหม่เพื่อพัฒนาศักยภาพของเทคโนโลยีสำหรับภูมิภาค

 

รับมือกับความท้าทายในอนาคต

แม้ว่าจะมีทิศทางที่ดีเกี่ยวกับภาพรวมของอุตสาหกรรม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปราศจากความท้าทาย โดยจากข้อมูลของ Gartner ผลการทดลองใช้บล็อกเชนทั่วโลกมีผลลัพธ์แตกต่างกันอย่างมากตามภาคส่วน บางภาคส่วนได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมมากกว่าการมองในแง่ดีของเชิงทฤษฎี เช่น การติดตามทรัพย์สิน, แหล่งที่มา, การชำระเงิน ในขณะที่กรณีการใช้งานอื่น ๆ ยังคงดิ้นรนเพื่อให้เกิดความก้าวหน้า

เนื่องจากเทคโนโลยี blockchain ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา เราจึงคาดว่าจะพบอุปสรรคมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการนำไปใช้และการปรับใช้ตามขนาดของอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่นอุปกรณ์อัจฉริยะนับหมื่นล้านที่มีอยู่ในตลาดอาจหมายถึงความจำเป็นในการรับรองความเป็นไปได้ของสัญญาอัจฉริยะหลายแสนล้านสัญญาที่ต้องดำเนินการพร้อมกัน

ในขณะที่ผลกระทบที่ยาวนานจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ยังคงไม่มีการกำหนด ดังนั้นภารกิจหลักส่วนใหญ่ในปี 2021 และต่อไปในอนาคต คือการค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการปรับสมดุลความสามารถในการปรับขนาดและความปลอดภัยบนห่วงโซ่เนื่องจากเทคโนโลยีบล็อกเชนจะกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น โดยความพยายามส่วนใหญ่ของ Ant ทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนาโซลูชันที่จัดการกับความท้าทายเหล่านี้ของบล็อกเชน ด้วยความสามารถในการเสริมสร้างความไว้วางใจซึ่งมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ในเศรษฐกิจโลกดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้นเราสามารถทำให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกทำงานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ที่ขาดทรัพยากรของตนเองในการดำเนินธุรกิจจากที่ใดก็ได้

(0)(0)