ในการประชุมการสื่อสารระดับโลกของ IEEE ปี 2020 (IEEE GLOBECOM) เมื่อเร็ว ๆ นี้ตามคำเชิญของ William Xu ผู้อำนวยการคณะกรรมการและประธานสถาบันวิจัยเชิงกลยุทธ์ของบริษัทหัวเว่ย ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง อนาคตของการเชื่อมต่ออัจฉริยะ: ความท้าทายและแนวทาง
IEEE GLOBECOM เป็นหนึ่งในการประชุมวิชาการประจำปีที่สำคัญ ซึ่งจัดโดย Institute of Electrical and Electronics Engineers (IEEE) เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมการสื่อสารที่ครอบคลุม
Mr. Xu ได้กล่าวว่า 5.5G เป็น “ขั้นตอนต่อไปในการบรรลุวิสัยทัศน์ของเราสำหรับอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งก็คือการตอบสนองความต้องการสำหรับการเปลี่ยนแปลงจากอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งไปสู่อินเทอร์เน็ตอัจฉริยะในทุกสิ่ง ” นอกจากนี้เขายังเรียกร้องให้อุตสาหกรรมทั้งหมดยอมรับความหลากหลายทางวิชาการ, เปิดกว้างและขยายความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยเพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาทฤษฎีและเทคโนโลยีพื้นฐาน
5.5G เป็นก้าวต่อไปสำหรับอุตสาหกรรมมือถือ
การพัฒนา 5G ขึ้นอยู่กับการลงทุนในระยะสั้น, ระบบนิเวศในระยะกลางและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีในระยะยาว ในระหว่างการขยายขนาดเชิงพาณิชย์อย่างรวดเร็วของ 5G การตอบรับจากทั้งในอุตสาหกรรมและจากอุตสาหกรรมแนวดิ่งช่วยส่งเสริมการอัพเกรดและขยายแอพพลิเคชัน 5G เพื่อให้มีการเชื่อมต่อที่หลากหลายมากขึ้นพร้อมกับคุณภาพที่ดีขึ้นและ “ การนำสังคมจากอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งไปสู่อินเทอร์เน็ตอัจฉริยะในทุกสิ่ง”.
“ 5.5G เป็นก้าวต่อไปในวิสัยทัศน์ของเราสำหรับอุตสาหกรรมมือถือ” Mr. Xu กล่าว ซึ่งเป็นการยกระดับและขยายมาตรฐานเพื่อรองรับระบบการทำงานของ 5G ในสามด้านหลักที่กำหนดโดย ITU นั่นคือ enhanced Mobile Broadband (eMBB), Massive Machine-Type Communications (mMTC) และ ultra-reliable low-latency communication (URLLC) โดย 5.5G จะมีความสามารถที่เหนือกว่าแอพพลิเคชั่นทั้งสามนี้ด้วยเพิ่มเติมความสามารถที่ใหม่สามอีกสามประการ ได้แก่ Uplink Centric Broadband Communication (UCBC), Real-Time Broadband Communication (RTBC) และ Harmonized Communication and Sensing (HCS) ซึ่งจะเป็นการเพิ่มคุณสมบัติจากเดิมที่มีสามประการเป็นหกประการ เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมต่าง ๆ
Mr. Xu ได้เน้นย้ำถึงข้อกำหนดทางเทคโนโลยีสามประการเพื่อพัฒนา 5.5G โดย “ 5.5G มีต้นกำเนิดมาจาก 5G ดังนั้นจึงต้องสามารถเข้ากันได้กับอุปกรณ์ 5G ทั้งหมด เราจึงต้องปรับรูปแบบการใช้งานของทรัพยากรคลื่นความถี่ต่ำกว่า 100 GHz ให้เหมาะสมเพื่อรองรับการใช้งานที่ยืดหยุ่นตามความต้องการในย่านความถี่ต่างๆ โดย 5.5G ต้องผสานรวมกับ AI ได้อย่างดเพื่อปรับปรุง air interfaces , เครือข่ายและบริการในขณะที่เป็นไปตามข้อกำหนดสำหรับเครือข่ายที่หลากหลายและการจัดการการใช้พลังงาน”
ก้าวสู่ความท้าทายใหม่และผลักดันข้อจำกัดของกรอบทฤษฎี
ด้วยความต้องการที่แข็งแกร่งที่กำหนดไว้ใน AI ทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อจะเพิ่มขึ้น 20 เท่าและความสามารถในการประมวลผลเกือบ 100 เท่าภายในปี 2030 ซึ่งหมายถึงความท้าทายอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมมือถือในการปรับปรุงการเชื่อมต่อและความสามารถในการประมวลผลอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันการเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในโดเมนธุรกิจจะทำให้ศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายขยายขนาดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับอุตสาหกรรมในการปรับปรุงการประหยัดพลังงานและความเป็นกลางของคาร์บอน
Mr. Xu ยังเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนและความสำคัญในการค้นหาทฤษฎีใหม่ ๆ และสร้างรากฐานทางคณิตศาสตร์ที่สามารถทำลายกรอบทางทฤษฎีเพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้มากขึ้นภายในแบนด์วิดท์ที่จำกัด, เพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพในการประมวลผล โดยเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การสื่อสารเชิงความหมาย, , AI federated learning และการคำนวณโดยประมาณที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการที่จะบรรลุเป้าหมายนี้
การสื่อสารเชิงความหมายดูเหมือนจะไม่สามารถเป็นไปได้มานานกว่า 70 ปีจนกระทั่งมี machine learning เกิดขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เป็นไปได้ แต่ยังเป็นหัวข้อใหม่ของการพัฒนาอีกด้วย โดยหากตระหนักถึง “ ทฤษฎีแชนนอน” ของการสื่อสารเชิงความหมายจะช่วยให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมากได้โดยใช้เพียงไม่กี่บิตเท่านั้น ซึ่ง AI federated learning จะช่วยให้การฝึกอบรมอัลกอริทึมสามารถกระจายไปยังโหนดจำนวนมากเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นโดยหลีกเลี่ยงการถ่ายโอนข้อมูลในตัวเครื่องเพื่อความเป็นส่วนตัว ในขณะที่การใช้ 5G เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการรวมกันระหว่างการสื่อสารและการประมวลผลจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งการเติบโตของ AI federated learning ซึ่งการคำนวณโดยประมาณจะช่วยให้อุตสาหกรรมมีวิธีใหม่ในการปรับสมดุลการใช้พลังงานและประสิทธิภาพ ด้วยวิธีการที่แตกต่างจากการประมวลผลแบบเดิม เทคโนโลยีนี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างมีนัยสำคัญด้วยความแม่นยำและการประมาณที่สมดุล
ความหลากหลายทางวิชาการและการเปิดกว้างเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทฤษฎีและเทคโนโลยีพื้นฐาน
การเชื่อมต่อถือเป็นรากฐานที่สำคัญของอุตสาหกรรม ICT และเราไม่สามารถประเมินพลังของการเชื่อมต่อที่สูงเกินไปได้ ตอนนี้สังคมนั้นขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อกันมากจนกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตและโครงสร้างของสังคมไปแล้ว ดังนั้นอินเทอร์เน็ตอัจฉริยะในทุกสิ่งจึงต้องการให้ทุกฝ่ายส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี 5.5G และเทคโนโลยีอื่น ๆ ร่วมกันผ่านความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม, สถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัย
ความหลากหลายและการเปิดกว้างเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมาโดยตลอด ดังนั้นเราจึงต้องรักษาแนวคิดเรื่องการเปิดกว้างและความหลากหลายนี้ต่อไปเพื่อสร้างและแบ่งปันระบบนิเวศดิจิทัล โดยก่อนที่จะกล่าวจบนั้น ทาง Mr. Xu ยังเรียกร้องให้ภาคอุตสาหกรรมคว้าโอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและสร้างโลกอัจฉริยะด้วยกัน
Archive
- เมษายน 2022(1)
- มีนาคม 2022(39)
- กุมภาพันธ์ 2022(58)
- มกราคม 2022(56)
- ธันวาคม 2021(43)
- พฤศจิกายน 2021(61)
- ตุลาคม 2021(72)
- กันยายน 2021(65)
- สิงหาคม 2021(76)
- กรกฎาคม 2021(75)
- มิถุนายน 2021(83)
- พฤษภาคม 2021(61)
- เมษายน 2021(66)
- มีนาคม 2021(41)
- กุมภาพันธ์ 2021(44)
- มกราคม 2021(21)
- ธันวาคม 2020(13)
- พฤศจิกายน 2020(14)
- กันยายน 2020(1)
- สิงหาคม 2020(1)
- กรกฎาคม 2020(3)