Covering Disruptive Technology Powering Business in The Digital Age

เขียนโดย: Rogelio Legaspi นักข่าว AOPG

ท่ามกลางการแข่งขันในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมการค้า บริษัทต่างๆ ได้นำกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้เพื่อขับเคลื่อนลูกค้าให้มากขึ้น องค์กรบางแห่งพึ่งพาส่วนลดและผลประโยชน์ที่คล้ายคลึงกัน ในขณะที่บริษัทอื่นๆ กำลังลงทุนในโฆษณาเพื่อดึงดูดผู้คนให้มาซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนตั้งแต่แรก

เพื่อนำความทันสมัยมาสู่การตลาดดังกล่าว ขณะนี้บริษัทต่างๆ กำลังใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในกลยุทธ์ของตน  ซึ่ง Augmented Reality (AR) เป็นวิธีหนึ่งในกลยุทธ์นี้ โดยทั่วไปแล้ว AR จะพบได้ในอุตสาหกรรมเกม เช่น Pokémon GO ที่มีผู้ใช้ 60 ล้านคนในปีแรกที่เปิดตัว

ในเกม ผู้เล่นสามารถจับโปเกมอนนอกบ้านได้โดยใช้มือถือ โดยตัวการ์ตูนแอนิเมชันจะแสดงเป็น ‘ตัวเสริม’ ในโลกแห่งชีวิตจริง ซึ่งทำให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในระดับใหม่ และด้วยเหตุนี้ AR จึงถูกนำไปใช้ในการตลาดเพื่อพยายามให้เป็นวิธีการใหม่และน่าตื่นเต้นสำหรับลูกค้าในการมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์

ตามรายงานฉบับใหม่โดย Grand View Research, Inc. ขนาดของตลาด Augmented Reality ทั่วโลกคาดว่าจะสูงถึง 340.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 โดยมีคนใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รองรับ AR มากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการช็อปปิ้ง, การศึกษาและการโต้ตอบทางโซเชียลมีเดีย

ด้วยเหตุนี้ เรามาดูวิธีที่บริษัทต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AR เพื่อดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นและปรับปรุงประสบการณ์ชองผู้ซื้อ:

1. การลองก่อนตัดสินใจซื้อ: บ่อยครั้งที่เราในฐานะลูกค้ามักจะไม่แน่ใจว่าเราควรซื้อผลิตภัณฑ์แบบใด ‘สีนี้เหมาะกับฉันไหม’ และ ‘การออกแบบนี้จะเข้ากับฉันหรือไม่’? และอยู่ท่ามกลางคำถามอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ด้วย AR คุณสามารถลองใช้สินค้าที่คุณต้องการได้มากเท่าที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Fossil ให้คุณลองใช้นาฬิกาได้โดยการใช้โทรศัพท์ของคุณก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งคุณเพียงแค่เลือกสินค้าที่ต้องการและใช้กล้องในโทรศัพท์ถ่ายที่ข้อมือ เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมใส่นาฬิกาของพวกเขาแล้ว
2. ลงรายละเอียด: เคยสงสัยหรือไม่ว่ามีรายละเอียดอะไรอยู่ในสินค้าที่คุณต้องการซื้อหรือกลไกของสิ่งเหล่านี้คืออะไร? ซึ่งด้วย AR คุณสามารถตอบคำถามนี้ได้ในที่สุด โดยในขณะนี้บางบริษัทกำลังใช้ AR เพื่ออธิบายรายละเอียดผลิตภัณฑ์ของตน เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ ตัวอย่างเช่น โตโยต้าเปิดตัว AR เพื่อให้ลูกค้าสามารถแสดงข้อมูลภายในรถยนต์, กลไกภายในและรายละเอียดอื่นๆ ที่สำคัญต่อบุคคลในการพิจารณาผลิตภัณฑ์
3. ช่วยสร้างกระแสให้กับแบรนด์: ปัจจุบันบริษัทต่างๆ ใช้ลูกเล่นที่สร้างสรรค์มากขึ้นเพื่อสร้างกระแส และ AR สามารถช่วยพวกเขาได้ด้วยการมอบประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น เช่น เป๊ปซี่ทำแบบนี้ด้วยป้ายรถเมล์แบบมีการโต้ตอบ ซึ่งผู้สัญจรและผู้คนที่ผ่านไปมาต้องแปลกใจกับหุ่นยนต์ยิงเลเซอร์ขนาดยักษ์แบบไม่ต้องสงสัย, ดาวเคราะห์น้อยที่ลุกเป็นไฟ, ท่อระบายน้ำที่มีหนวดโผล่ออกมา และอื่นๆ อีกมากมาย โดยแคมเปญดังกล่าวทำให้ยอดขาย Pepsi Max เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) สำหรับเดือนที่เผยแพร่แคมเปญ
4. การช่วยเหลือลูกค้า: สำหรับลูกค้าทั่วไป บริษัทต่างๆ ยังใช้ AR เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของพวกเขา โดยร้านขายของชำได้ใช้ AR เพื่อแนะนำลูกค้าในขณะที่ช็อปปิ้ง โดยมีการให้รายละเอียด เช่น ตำแหน่งของสินค้า ส่วนลด และข้อมูลที่มีค่าอื่นๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ
5. เพิ่มความสวยงาม: มีอีกวิธีที่สร้างสรรค์ในการใช้ AR คือการเพิ่มความสวยงามให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสถานที่จริง เช่น ร้านอาหารและร้านกาแฟ ตัวอย่างเช่น Rekorderlig บริษัทเครื่องดื่มได้ใช้เทคโนโลยีชุดหูฟัง Magic Leap AR เพื่อฉายภาพโฮโลแกรมและคลื่นแสงเข้าด้วยกันในวิสัยทัศน์ของผู้สวมใส่ ซึ่งทำให้เส้นแบ่งระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนไม่ชัดเจน

(0)(0)