Covering Disruptive Technology Powering Business in The Digital Age

พานาโซนิคเปิดตัวกล้องรักษาความปลอดภัย i-PRO S-Series ที่เพิ่มประสิทธิภาพใหม่ ซึ่งมีโปรเซสเซอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในตัว ที่จะช่วยให้กล้องทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ edge computing และให้คุณภาพของภาพที่ดียิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย โดยในฐานะที่เป็นกล้องรักษาความปลอดภัยระดับกลางกลุ่มแรกของ Panasonic ที่รวมเอาความสามารถ AI ในตัว ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ i-PRO S-Series ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของการตรวจตราและการเฝ้าระวังความปลอดภัยโดยลดความต้องการแบนด์วิดท์และโครงสร้างพื้นฐานด้วยการประมวลผลข้อมูลและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ที่ Edge

“ในขณะที่ความต้องการอุปกรณ์ edge computing และอุปกรณ์ AI ยังคงเติบโต เรามองเห็นศักยภาพอันมหาศาลของพานาโซนิคในการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับกล้องรักษาความปลอดภัยด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ i-PRO S-Series ด้วยการก้าวข้ามขีดจำกัดที่กล้องรักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิมทำได้ ซึ่งด้วยความสามารถของ AI ที่มาพร้อมในตัวของ i-PRO S-Series จะช่วยให้ธุรกิจจำนวนมากได้สัมผัสกับพลังของการประมวลผลแบบเอดจ์ในขณะที่เพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของการตรวจตราและการเฝ้าระวัง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน” Alvin Quek หัวหน้าฝ่ายโซลูชั่นความปลอดภัย Panasonic System Solutions Asia Pacific กล่าว

กลุ่มผลิตภัณฑ์ i-PRO S-Series ใหม่ คือ กล้องรักษาความปลอดภัยแบบ Full HD สี่ตัว ดังนี้:

• WV-S1136 Full HD ‘Indoor Box’ Network Camera with AI Engine for High Precision Analysis
• WV-S2136 Full HD ‘Indoor Dome’ Network Camera with AI Engine for High Precision Analysis
• WV-S2136L Full HD ‘Indoor Dome’ Network Camera with AI Engine for High Precision Analysis
• WV-S2236L Full HD Vandal Resistant ‘Indoor Dome’ Network Camera with AI Engine for High Precision Analysis

กล้องรักษาความปลอดภัยรุ่น i-PRO S-Series มาพร้อมกับแอปพลิเคชันภายในองค์กร เช่น AI-Video Motion Detection (AI-VMD) และ AI Privacy Guard แอปพลิเคชันเหล่านี้ให้การเข้าถึงฟังก์ชันความปลอดภัยอัจฉริยะในทันที เช่น การตรวจจับผู้บุกรุกหรือการเดินเตร็ดเตร่ ในขณะที่ได้ทำให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้ (PII) ของบุคคลนั้นได้รับการปกป้องผ่านการสร้างภาพพิกเซลและใบหน้าโดยอัตโนมัติ ด้วยวิธีนี้ทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคจะมีความสำคัญและต้องคำนึงถึงก่อน และการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามภูมิศาสตร์ที่มีกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด เช่น ในสิงคโปร์ที่มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)

นอกจากนี้ ผู้ใช้กล้องรักษาความปลอดภัย i-PRO S-Series ยังสามารถใช้ประโยชน์จากแอพพลิเคชั่นเสริมอีก 3 แอพพลิเคชั่น ได้แก่ AI Face, AI People และ AI Vehicle Detection เพื่อให้สามารถค้นหาฟุตเทจวิดีโอได้อย่างรวดเร็วตามภาพใบหน้า (แม้จะสวมหน้ากากอยู่ก็ตาม) ) หรือคุณลักษณะอื่นๆ ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของผู้คนและยานพาหนะ โดยแอปพลิเคชันเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ พัฒนาความสามารถในการควบคุม AI ได้มากขึ้น และทำได้มากกว่าการใช้การจดจำภาพเพื่อใช้ประโยชน์จากการจำแนกประเภทเสียงที่ไมโครโฟนภายนอกใช้ เช่น เสียงปืน การตะโกน เสียงแตรรถ หรือกระจกแตก

i-PRO S-Series ยังมาพร้อมกับ Software Development Kit (SDK) ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นของบริษัทอื่นเพิ่มเติมที่สามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการของพวกเขาได้

(0)(0)