Covering Disruptive Technology Powering Business in The Digital Age

เขียนโดย: Rogelio Legaspi ,นักข่าว ,AOPG

Robotic Process Automation (RPA)เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้องค์กรเดินหน้าในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความรวดเร็วของขั้นตอนต่าง ๆ ทางธุรกิจด้วยระบบอัตโนมัติ ,ลดต้นทุนในการดำเนินงาน ,และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมด้านการเงิน ซึ่ง RPA กำลังทำการปฏิวัติวิธีในการดำเนินธุรกิจต่างๆ

เทคโนโลยีนี้มีการพัฒนาไปอย่างมาก เพื่อให้มาถึงเป้าหมายในขณะนี้ จากการที่คุณ Dan Ternes ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ Blue Prism ได้ให้คำอธิบายในการให้สัมภาษณ์กับ DTA ว่า มีปัจจัยหลัก 2 ประการที่มีส่วนในการสนับสนุนการเติบโตและความก้าวหน้าของ RPA อย่างมีนัยสำคัญ คือ: ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการปรับเปลี่ยนความคิดสำหรับอุตสาหกรรม

ด้วยขอบเขตที่กว้างขึ้นในการใช้งานของ RPA นี้ ทำให้แนวความคิดของอุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนแปลงไป ในแง่ของวิธีการที่พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น RPAs สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้นและกระบวนการในการทำงานที่เป็นแกนหลักของธุรกิจ

คุณ Dan กล่าวว่า มีหลายสาเหตุที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในอุตสาหกรรม สาเหตุหนึ่งนั่นคือ องค์กรต่างๆ มีความมั่นใจในระบบ RPA โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถาบันบริการทางการเงิน Financial Services Institutions (FSIs) ,ซึ่งธุรกิจต่างๆ เกิดขึ้นได้จากความไว้วางใจ นอกจากนี้ FSIs ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันให้คิดหาวิธีแก้ปัญหาที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง โดยRPA สามารถช่วยสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน และช่วยให้บริษัทต่างๆ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้

นอกจากนี้ RPAs ยังช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรม ,โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเปิดใช้งาน remote workforce (แนวทางในการบริหารจัดการพนักงานที่ทำงานที่บ้าน) ซึ่งคุณ Dan ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า “มันเป็นเรื่องของการขยายการเข้าถึงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล จากมุมมองในทางกลยุทธ์ เราเห็นลูกค้าจำนวนมากที่ใช้ RPA เพื่อเข้าถึงการจัดการพนักงานของตนจากระยะไกล คุณรู้ไหมว่าต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะทำได้ แต่เราสามารถจัดการได้ภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น”

RPAs ยังสามารถเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการปรับปรุงการปฏิบัติตามกฎระเบียบได้อีกด้วย คุณ Dan ได้ยกตัวอย่างว่า บริษัทสามารถจำกัดการเข้าถึงข้อมูลและทำให้แน่ใจว่าข้อมูลจะไม่ส่งไปผิดคน โดย RPAs ยังทำงานตามขั้นตอนที่มีการกำหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับกฎและนโยบายที่กำหนดไว้  เขายังเสริมว่าสำหรับในการตรวจสอบ RPAs จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องมีการควบคุม

ในส่วนของลูกค้า RPA ช่วยให้องค์กรสามารถแก้ปัญหาที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางได้ ซึ่งสำหรับ คุณ Dan มองว่า ในบางครั้งอาจไม่มีความสำคัญมากพอ คุณ Dan ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า “ตัวอย่างเช่น ในบางครั้งเครื่อง ATM เกิดขัดข้อง แล้วผมพยายามถอนเงินแต่ไม่มีเงินออกมา เมื่อลูกค้าของเรานำ RPAs มาใช้ในการตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดของ ATM เครื่องนี้  พวกเขาจะสามารถระบุการถอนครั้งที่ผิดพลาดได้ จากนั้นจะมีการส่งข้อความถึงลูกค้าในเชิงรุกภายในสามนาที ซึ่งก่อนหน้านี้จะใช้เวลาเจ็ดวันในการรับเงินคืน ในตอนนี้หุ่นยนต์ช่วยให้ได้รับเงินคืนภายใน 10 นาทีแล้ว”

Blue Prism เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ RPA สำหรับองค์กร โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมด้านการเงิน  ตามที่คุณ Dan ได้กล่าวไว้ สิ่งที่ทำให้ Blue Prism ไม่เหมือนใครคือพวกเขาจะไม่เปลี่ยนเวอร์ชันเป็นเวอร์ชัน  หมายความว่า ความสามารถด้านระบบอัตโนมัติที่สำคัญนั้นพร้อมเสมอโดยไม่มีค่าธรรมเนียม โดยมีรูปแบบการกำหนดราคาที่ไม่เหมือนใคร ในขณะที่ทุกคนจะเรียกเก็บเงิน

สำหรับคุณ Dan แล้ว RPA ยังคงต้องพัฒนาต่อไป เนื่องจากแอพพลิเคชั่นต่างๆที่ทุกบริษัทต้องการนั้นมีการพัฒนาเช่นเดียวกัน เขากล่าวเสริมว่า RPAs กำลังขยายขอบเขตให้เป็นแนวทางเดียวกับที่องค์กรสามารถนำเสนอการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในทางปฏิบัติและเสนอรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดให้กับพนักงานได้ คุณ Dan กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถทำได้โดยใช้เทคนิคการรวมระบบหรือระบบอัตโนมัติแบบอื่น”

(0)(0)