Covering Disruptive Technology Powering Business in The Digital Age

image
Samsung ร่วมมือกับ IBM เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆยอมรับกับ IR 4.0
image
ธันวาคม 18, 2020 ข่าว

 

Samsung Electronics ประกาศแผนใหม่ในการร่วมมือกับ IBM ในการพัฒนาโซลูชั่น Edge Computing, 5G และ Hybrid Cloud เพื่อช่วยให้ธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมสามารถดำเนินงานได้อย่างทันสมัยและตระหนักถึงสัญญาของ Industry 4.0 * Samsung และ IBM ที่ตั้งใจจะทำงานร่วมกันเพื่อมอบโซลูชันใหม่สำหรับองค์กรสำหรับการประมวลผลบนมือถือและเครือข่าย 5G ส่วนตัวแบบ end-to-end ที่ทำงานบนสถาปัตยกรรมเปิดและช่วยให้พนักงานทำงานผ่านอุปกรณ์ของ Samsung Galaxy ที่รองรับ 5G

ความร่วมมือที่วางแผนไว้นี้จะรวมอุปกรณ์เคลื่อนที่ Galaxy 5G ชั้นนำของ Samsung และโซลูชันเครือข่ายแบบ end-to-end ขั้นสูงเข้ากับการจัดการเครือข่ายของไอบีเอ็ม, hybrid cloud, edge computing และความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายตลอดจนโซลูชันในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์สถาปัตยกรรมเปิดของ Red Hat โดยเป้าหมายคือการพัฒนาโซลูชันคลาวด์แบบไฮบริด เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถดึงข้อมูลเชิงลึกได้มากขึ้นจากข้อมูลตั้งแต่พื้นโรงงานไปจนถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันหรือพื้นที่สำนักงานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน, เพิ่มความปลอดภัยของพนักงานและลดเวลาหยุดงาน ซึ่งทั้งสอง บริษัทยังวางแผนที่จะสำรวจว่าผู้ผลิตสามารถใช้เครือข่าย 5G หรือ 4G ส่วนตัวและอุปกรณ์เคลื่อนที่ 5G ด้วยโซลูชัน Industrial IoT (IIoT) ได้อย่างไร

“การเปลี่ยนไปใช้ 5G แบบสแตนด์อโลนได้เร่งการนำโซลูชัน IIoT มาใช้และจะกำหนดให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องใช้กลยุทธ์ edge computing ที่ช่วยให้พวกเขาจัดการองค์กรที่ใช้ระบบไอทีได้จากทุกที่” คุณ KC Choi รองกรรมการผู้จัดการใหญ่และหัวหน้าทีม Global Mobile B2B, Mobile Communications Business ของ Samsung Electronics ได้กล่าวว่า “ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ IBM และพบว่าอุปกรณ์ของเราไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ IoT สำหรับมือถือและโซลูชันเครือข่ายสามารถช่วยให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลได้ดีขึ้นและข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้มากขึ้นเพื่อยกระดับธุรกิจของตนไปอีกขั้น”

Samsung และ IBM ยังตั้งใจที่จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จาก 5G ในเครือข่ายสาธารณะและส่วนตัว โดยผ่านการทำงานร่วมกันกับผู้ให้บริการมือถือทั่วโลก ซึ่ง Samsung ได้ประกาศโครงการร่วมกับ IBM, Singapore Infocomm Media Development Authority และผู้ให้บริการโทรคมนาคม M1 ในช่วงต้นปีนี้เพื่อแสดงความก้าวหน้าของ Smart Factory รวมถึงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลของ AI และความสามารถของ AR ที่รองรับโดย 5G โดยทั้งสองบริษัทมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างประสบการณ์มือถือให้กับผู้ใช้และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับองค์กรต่างๆ

 

เครือข่าย 5G ส่วนตัวจะช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพสูงสุด

Samsung และ IBM ยังตั้งใจที่จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จากพลังของ 5G เพื่อเพิ่มประสิทธิผลและเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งพวกเขาวางแผนที่จะรวบรวมโซลูชันแบบ end-to-end 5G ล่าสุดของ Samsung รวมถึงผลิตภัณฑ์ indoor and outdoor ที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมย่านความถี่ระดับกลาง (C-Band, CBRS และ 5G ในพื้นที่) , mmWave , ระบบคลาวด์ และโซลูชัน on-premise server-based ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ไฮบริดแบบเปิดของ IBM รวมถึงแพลตฟอร์มที่ทันสมัยและความสามารถในการจัดการเครือข่าย, บริการรวมและให้คำปรึกษาและโซลูชัน AI ซึ่งสิ่งนี้สร้างขึ้นจากการประกาศล่าสุดของ Red Hat ร่วมกับ Samsung ในการนำเสนอโซลูชันเครือข่าย 5G ที่สร้างขึ้นบน Red Hat OpenShift และสามารถช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถปรับแต่งและปรับใช้เครือข่ายของตนได้อย่างรวดเร็วและจัดการได้อย่างยืดหยุ่นผ่านระบบคลาวด์ในสถานที่หรือสภาพแวดล้อมส่วนตัวที่พวกเขาเลือก

นอกจากนี้การทำงานร่วมกันของ Samsung และ IBM ในเครือข่าย 5G ส่วนตัวนั้นจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้องค์กรต่าง ๆ นำเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่และมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรม 4.0 เช่น IoT, AI, คลาวด์, edge computing, augmented reality (AR) และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ในธุรกิจของตน ที่จะสามารถช่วยให้พนักงานระบุข้อผิดพลาดในสายการผลิตโดยใช้การจดจำภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI ,ใช้เซ็นเซอร์หลายพันตัวเพื่อสร้างโซลูชันการเกษตรอัจฉริยะหรืออำนวยความสะดวกในการฝึกอบรมพนักงานและเพิ่มผลผลิตโดยใช้ AR

“การเปลี่ยนแปลงของเครือข่ายการสื่อสารจากสถาปัตยกรรมที่มีกรรมสิทธิ์ไปสู่แพลตฟอร์มคลาวด์แบบไฮบริดอัจฉริยะที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ จะช่วยให้สามารถสร้างมูลค่าใหม่มหาศาลในยุค 5G” Steve Canepa ผู้จัดการทั่วไปและกรรมการผู้จัดการ, แผนกการสื่อสาร, IBM ได้กล่าวว่า “ อุปกรณ์ 5G และโซลูชันเครือข่ายจาก Samsung พร้อมด้วยความสามารถระบบคลาวด์แบบไฮบริดแบบเปิดของ IBM และ Red Hat จะสามารถช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในทุกอุตสาหกรรมเร่งการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาทางธุรกิจที่แท้จริง ในขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของ 5G และ edge”

 

การขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรม 4.0

Samsung, IBM และ Red Hat มีแผนที่จะส่งมอบโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 และในอนาคต โดยใช้ประโยชน์จากพลังของอุปกรณ์ 5G ,เครือข่าย 5G บนคลาวด์และแพลตฟอร์ม edge computing ขั้นสูง โดยเฉพาะบริษัทตั้งใจที่จะสำรวจความสามารถในการทำงานร่วมกันและการรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Samsung เข้ากับ IBM Edge Application Manager ซึ่งทำงานบน Red Hat OpenShift และ AI เพื่อให้สามารถจัดการปริมาณงานคอมพิวเตอร์และปรับใช้กับกลุ่มอุปกรณ์มือถือของ Samsung ในระดับอุตสาหกรรมได้

IBM ยังวางแผนที่จะให้บริการคลาวด์แบบไฮบริดและบริการอุตสาหกรรมเฉพาะกลุ่มเพื่อช่วยในการออกแบบและการใช้งานของโซลูชันและ Samsung ยังจะให้นักพัฒนาเข้าถึงคุณสมบัติคุณภาพสูงที่ใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศของ IBM และ Red Hat และชุมชน open source ที่กว้างขึ้น

ผลลัพธ์ที่ตั้งใจไว้นี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจในการจัดการสภาพแวดล้อม ของ IT / OT ได้จากทุกที่แต่ยังช่วยให้สามารถจัดการและคำนวณข้อมูลบนอุปกรณ์มือถือของ Samsung พร้อมกับอุปกรณ์ปลายทางอื่น ๆ อีกนับหมื่นเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พวกเขาได้รับข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์แบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ , เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน, เพิ่มขีดความสามารถให้กับพนักงานและมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า

การรวมพลังกันเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

การประกาศครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งล่าสุดในความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลกระยะยาวของ Samsung และ IBM ที่จะช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลกเปลี่ยนแปลงผ่านมือถือ, AI และ 5G โดยในหลายทศวรรษที่ผ่านมาทั้งสองบริษัทได้ทำงานร่วมกันในหลายโครงการที่จะช่วยให้รัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานรวมถึงการทำงานร่วมกับ AI และโซลูชั่นมือถือ ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกเขาได้ร่วมมือกันเพื่อทำงานร่วมกันในการนำเสนอ 5G ในรุ่นต่อไปและข้อเสนอของ edge ผ่าน IBM Cloud for Telecommunications

 

(0)(0)